วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ไหมพรมชนิดต่างๆ

การใช้ไหมที่ต่างกันก็ทำให้ได้งานที่แตกต่างกันค่ะ ทั้งนี้ก็แล้วว่าผู้ถักจะออกแบบงานออกมาอย่างไรค่ะ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว แพทเทิร์นที่สวยๆในหนังสือแพงๆ มักจะเลือกไหมมาเหมาะสมกับงานของเค้านะค่ะ แต่หากบางทีเราไม่สามารถหาไหมตัวนั้นได้ หรืองบไม่ถึงก็ต้องหาไหมตัวอื่นมาแทนค่ะ ไหมมีหลายชนิดค่ะ แล้วก็นำไปใช้ทำชิ้นงานที่แตกต่างกันค่ะ ลองดูแล้วกันนะค่ะ


  •  Wool 

     หรือ แปลว่าขนสัตว์ ในงานไหมพรมส่วนใหญ่มาจากขนแกะ แต่ว่ามาจากแกะต่างสายพันธุ์ ในที่นี้หมายถึง wool 100 % นะค่ะ เท่าที่มีผู้รู้บอกว่าน่าจะมี 2 แบบหลักๆคือ

1. Icelandic อันนี้ ไหมชนิดนี้อาจทำให้ระคายต่อผิว เพราะค่อนข้างหยาบ แต่ว่าแข็งแรงค่ะ เหมือนเล็บเรานี่เอง

2. Merino อันนี้ อาจจะได้ยินกันบ่อยหน่อย อันนี้จะนิ่มเหมือนผ้าฝ้าย และก็ไม่ระคายเคืองต่อผิว


  • Mohair 

      เป็นไหมที่ทำมาจากแพะ จะเป็นขนๆฟูๆหน่อย อาจจะคันหน่อย ฉะนั้นไม่เหมาะต่อการทำผ้าพันคอ แต่ว่าถ้าทำเป็นเสื้อกันหนาวก็โอเค มีผู้รู้บางท่านบอกว่ามีทั้งของแท้และของเทียม อันนี้ต้องลองหาซื้อมาดูเองนะค่ะ เพราะผู้เขียนก็ไม่เคยทำมาก่อนค่ะ


  • Cashmere

     เป็นไหมที่ทำจากขนหน้าท้องของแพะ ให้สัมผัสที่นุ่มค่ะ  ของแท้ราคานั้นไม่ต้องบอกหลายท่านรู้ว่าแพงจริงๆ แต่ก็มีนำมาผสมกับไหมอื่นๆเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลงนะค่ะ


  • Alpaca

      เป็นไหมที่ทำมาจากขนของเจ้าลามะ  เหมาะที่จะทำถุงมือ หมวก ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาว ให้ความอบอุ่นได้ดีึค่ะ แต่ถ้าสำหรับบ้านเาคงต้องเลือกแบบสักหน่อย


  • Angora

      เป็นไหมที่มำมาจากขนกระต่าย ลักษณะก็จะเป็นขนๆฟูๆ เหมาะกับทำปกเสื้อ ข้อมือเสื้อ


  • Silk

     เป็นไหมที่มำมาจากรังหนอนไหม จะเป็นใยที่ค่อนข้างแข็งแรง ราคาแพง เพราะสำหรับเสื้อผ้าหน้าร้อน อย่าง เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว หรือว่า ผ้าคลุมไหล่


  • Cotton

      หรือที่บ้านเราเรียกว่าไหมฝ้าย ไหมตัวนี้มีทั้งยี่ห้อแพงๆๆที่ขายในห้าง หรือมีที่เป็นไหมบ้านเราเอามาแบ่งกลุ่มขายค่ะ จะไม่ยืดหยุ่นเท่ากับไหมขนแกะ เหมาะสำหรับถัก บิกินี่  เสื้อเด็ก หรือว่า เสื้อกันหนาวแบบว่าไม่หนาจนเกินไป  แต่ผู้เขียนชอบนำมาถักตุ๊กตาค่ะ เพราะเดียวนี้สีสันมีมากมากให้เลือกนะค่ะ ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 30-60 บาท ชึ้นอยู่กับปริมาณที่เราสั่งค่ะ


  • Acrylic

      ไหมชนิดนี่ว่ากันว่า เหมาะสำหรับตุ๊กตา เสื้อผ้าเด็ก หรือว่าสัตว์เลี้ยง ราคาไม่แพงจึงเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มหัด ดังนั้นโดยที่ไม่ต้องจ่ายแพงนัก ในบ้านเราไหมพรม acrylic มีหลายยี่ห้อ มีหลายแบบ ความนิ่ม ความฟูแตกต่างกันออกไปแล้วแต่การใช้งาน  ที่เห็นกันทั่วๆไป ก็คือ ไหมพรม วีนัส ซึ่งก็มีหลายชนิด เท่าที่เห็นก็มีดังนี้

1. ไหมฟู เพื่อนในห้องส่วนใหญ่จะใช้ไหมฟูยี้ห้อนี้ในการถักตุ๊กตาถักออกมาแล้วจะมีขนๆฟูๆ นิ่มๆ และเงาๆ
     1.1 วีนัสเขาเรียกไหมชนิดนี้ว่า venus soffur น่าจะมาจากคำว่า soft และก็ fur ก็ตามตัวเลยค่ะ นิ่มๆ เหมือนขนสัตว์
ข้อดี - นิ่ม ฟู หาซื้อได้สะดวก
ข้อเสีย - ขาดง่ายค่ะ คนที่มือหนักไม่ขอแนะนำค่ะ ผู้เขียนเองที่แรกก็ไม่เชื่อผู้รู้ ลองทำดูขาดกระจาย เพราะลังที่มีมากเกินไค่ อิอิอิอิ เพราะว่าเวลาทำก้นหอยถ้าดึงแรงไปก็จะขาดได้ง่าย และอีกข้อคือ เวลาเลาะแล้วเนียะ ไหมมันจะแตกและจะทำให้งงยิ่งขึ้น
ราคา ประมาณ 17-20 บาท แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นซื้อได้ถูกหรือแพงกว่านี้ก็แล้วแต่ความสามารถของคนซื้อค่ะ

2.ไหมพรม 4 ply เพื่อนบางคนก็ใช้ไหมชนิดนี้ในการถักตุ๊กตา เหมาะกับคนที่ไม่ถูกกับไหมฟู ไหมออกจะฝืดๆหน่อยค่ะ ไหมชนิดนี้มีหลายยี่ห้อมากๆ ทั้งจากต่างประเทศ ในประเทศ แต่ที่จะเสนอวันนี้มีแค่ ยี่ห้อที่ฮิตๆ กันในห้องงานฝีมือ
    2.1 วีนัส  เป็นไหมพรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะหาซื้อง่ายที่สุดในบ้านเราเลยค่ะ มีทั้งสีล้วน เหลือบ
ข้อดี - หาซื้อง่าย
ข้อเสีย - เส้นหยาบไปหน่อย ถักไปนานๆจะเจ็บมือ
ราคาประมาณ 28-30 บาท
     2.2 อีเกิ้ล ( Eagle ) ไหมยี่ห้อนี้เป็นที่ถูกใจของใครหลายๆ คน เพราะว่านิ่มกว่าไหมวีนัส ทั้งๆที่ก็เป็นไหมชนิดเดียวกัน แต่เพื่อนๆบางคนจะมีปัญหาในการหาซื้อ
ข้อดี - นิ่ม เวลาถักหมวก ถักผ้าพันคอเนียะ มันจะนุ่มๆ ดีค่ะ ไม่ด้าน ทำแล้วน่าใช้มากๆค่ะ
ข้อเสีย - หาซื้อยากหน่อย
ราคาประมาณ 28-30 บาท แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นซื้อได้ถูกหรือแพงกว่านี้ก็แล้วแต่ความสามารถของคนซื้อค่ะ

 3. ไหมเส้นใหญ่ อีกชื่อหนึ่งคือ Double Knitting Yarn เป็นไหมเส้นหใญ่สมฃื่อ นิยมเอามาทำตู๊กตา หมวก หรือรองเท้า ส่วนผู้เขียนใช้ถักตุ๊กตาค่ะเหมาะสำหรับมือใหม่หัดทำเป็นอย่างยิ่ง เส้นใหญ่จะนำมาทำตุ๊กตา ตัวก็โต..โต  แต่มันจะแข็งๆหน่อยนะค่ะ อันนี้อยู่ที่ความปราณีตด้วยค่ะ
ราคาอยู่ที่ 18-22 บาทค่ะ
ข้อดี- ราคาถูกและหาซื้อง่ายค่ะ

ข้อเสีย-ถักแล้วเจ็บมือค่ะ

วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แนะนำการถักผ้าพันคอไหมพรมสำหรับมือใหม่

  วิธีการถักผ้าพันคอไหมพรมก็มีอยู้หลากหลายวิธี เช่น การถักบล็อก ถักโครเชต์ ถักนิตติ้ง หรือการ ถักด้วยมือ ! ซึ่งเราจะมาดูกันว่าการถักแต่ละแบบนั้นต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรกันบ้าง !


  • ถักบล็อก

สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการถักผ้าพันคอแบบบล็อกมีดังนี้ !

       -บล็อกถัก

สำหรับบล็อกไม้มีให้เลือกสองแบบ

 - บล็อคไม้ตะปูรุ่นธรรมดา แบบนี้จะไม่สามารถปรับระดับตะปูได้ มีตั้งแต่ขนาด 16-50 หลัก

 - บล็อคไม้ตะปูแบบปรับระดับได้ ลักษณะเหมือนบล็อคไม้รุ่นธรรมดา แต่จะต่างกันตรงที่ แบบปรับระดับได้จะมีตัวไม้สำหรับปรับระดับ หัว-ท้าย ซึ่งประโยชน์ของบล็อคไม้ตะปูแบบปรับระดับได้คือ ช่วยให้ปรับลายให้แน่นหรือหลวมขึ้นได้ ตามขนาดของไหมพรมนั่นเอง



        -เข็มขวักไหมพรม (หรือใช้เข็มโครเชต์แทนก็ได้ค่ะ)


       -ไหมพรมสีต่างๆ




  • ถักโครเชต์ 


สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการถักผ้าพันคอแบบโครเชต์มีดังนี้ !


     -เข็มโครเชต์

    -การเลือกเข็มถัก การเลือกขนาดของเข็มโครเชต์จะขึ้นกับขนาดของเส้นไหมที่ใช้ถัก และขนาดของการถักว่า ต้องการถักแน่นหรือหลวมมากน้อยขนาดไหน อย่างเช่น ไหมพรมแบบ 4 ply ธรรมดานี่ ส่วนใหญ่เราจะใช้เข็มโครเชต์ 2 หัวด้านขนาด 4/0 ถัก แต่ในบางงานที่ต้องการให้ถักออกมาดูหลวมๆ โปร่งๆ เราก็จะใช้เข็มโครเชต์ 2 หัว แบบสีทอง ขนาดด้าน 5/0 รายลเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก


     -ไหมพรม


     -วิธีการเลือกขนาดไหมพรม คลิ๊ก




  • ถักนิตติ้ง


สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการถักผ้าพันคอแบบนิตติ้งมีดังนี้ !


     -ไม้นิตติ้ง



     -ขนาดไม้นิต การเลือกขนาดของไม้นิตจะพิจารณาจากขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นไหม หรือขนาดช่วงกว้างของขนเส้นไหมเป็นหลัก โดยมากจะเลือกขนาดไม้นิตในช่วงขนาดเดียวกับเส้นไหม หรือถ้าต้องการลายแน่นขึ้นจะใช้ไม้นิตลด -1mm. จากขนาดเส้นไหม หรือลายห่างหน่อยเพื่อให้งานยืดหยุ่น เพิ่มขนาด +1mm. จากขนาดเส้นไหม สำหรับขนาดของไม้นิต ที่อิงกับขนาดไหมตามมาตรา metric เทียบกับเบอร์ตามมาตรฐานของ Japan, UK และ US เทียบขนาดไม้นิตติ้ง คลิ๊ก 

-รูปแบบของไม้นิต การเลือกใช้ไม้นิตแต่ละแบบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ต้องการถัก

 - ไม้นิตตรงมีจุกปิดปลายหนึ่งข้าง สำหรับงานถักผืนชิ้นงานสี่เหลี่ยม โดยการถักจะเป็นการถักไปกลับ สลับข้างไม้นิต 

- ไม้นิตตรง แบบเป็นเซ็ต หรือไม้นิตเซ็ต ไม่มีจุกปิดปลายทั้งสองด้าน มักนำมาใช้กับการถักชิ้นงานแบบวงกลม โดยนำไม้นิตตรงมาถักต่อบรรจบกัน เริ่มต้นที่ไม้นิต 3 ไม้ หรือจะใช้สำหรับงานถักต่อกันเป็นชิ้นงานสี่เหลี่ยมผืนกว้างมากโดยนำไม้นิตหลายอันมาถักต่อกันก็ได้เช่นกันค่ะ

- ไม้นิตวงกลม หรือ ไม้นิตโค้ง (Circular Knitting Needle) จะเป็นลักษณะ ไม้นิตที่มีเส้นพลาสติกหรือเส้นลวดสลิงมาต่อเชื่อมกันระหว่างไม้นิตสองข้าง มักนำมาใช้กับการถักชิ้นงานแบบวงกลม และสามารถถักได้ทั้งชิ้นงานผืนสี่เหลี่ยมได้ตั้งแต่ขนาดกว้างธรรมดาจนไปถึงกว้างมาก หลายๆท่านที่ต้องการความคุ้มค่าในการลงทุนกับไม้นิตติ้ง จึงสามารถเลือกตัวนี้ในการใช้สอยแบบเอนกประสงค์ได้เป็นอย่างดี การเลือกความยาวของตัวไม้นิตรวมเส้นพลาสติกที่เชื่อม จะพิจารณาจากช่วงกว้างของชิ้นงานผืนสี่เหลี่ยมที่ต้องการถัก หรือสำหรับชิ้นงานวงกลม จะพิจารณาจากเส้นรอบวงโดยขนาดไม้นิตควรจะมีขนาดน้อยกว่าเส้นรอบวงสักเล็กน้อย สำหรับหมวก มักใช้ที่ความยาว 40cm. และหากต้องการกว้างมากกว่านั้น ก็พิจารณาที่ความยาวมาก



     -ไหมพรม



      -ตารางเทียบขนาดไหมพรมกับไม้นิตติ้งที่ใช้ คลิ๊ก




  • ถักมือ

สำหรับวิธีถักด้วยมือเตรียมแค่ไหมพรมอย่างเดียวค่ะ :D




-ที่มา 



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ภาพgifน่ารักๆ

ประวัติของผ้าพันคอ

  • ประวัติโดยย่อ ผ้าพันคอ ผ้าพันคอแฟชั่น
   ประวัติของผ้าพันคอย้อนหลังกลับไปยุคโรม มีผ้าเช็ดหน้าที่ชายชาวโรมันใช้ในการซับเหงื่อที่คอและใบหน้า ที่รู้จักกันในชื่อในภาษาละตินว่า Sudarium ชาวโรมันได้พัฒนาผ้าพันคอให้เป็นที่นิยม โดยการใช้ผูกปมเป็นเข็มขัดหรือไม่ก็สวมรอบคอ ซึ่งกระแสนิยมนี้พัฒนาไปสู่ผู้หญิงด้วย และตั้งแต่นั้นมาผ้าพันคอก็เป็นเสมือนความนิยมในหมู่สาวๆผ้าพันคอทำจากผ้าแทนขนสัตว์นั้นเป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่งในการสงคราม ในสมัยจักรพรรดิ์จีน Shih Huang Ti และต่อมาก็เป็นที่แพร่หลายในวงการค้าขายชาวโครเอเชี่ยน  ซึ่งไม่ใช้ผ้าพันคอขนสัตว์แต่เป็นผ้าพันคอผ้าฝ้ายธรรมดา และใช้ผ้าพันคอผ้าไหมสำหรับทหารหรือพนักงานบริษัท โดยเรียกว่า Kravata ต่อมาชาวฝรั่งเศสเรียกว่า Cravats ใช้เป็นผ้าผูกคอหรือ เน็คไทมีสีสันสวยงามและแตกต่างยิ่งขึ้น  แต่มีแนวโน้มกลายเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองของผู้ประท้วงจนศตวรรษที่ 19 กระแสนิยมในผ้าพันคอหรือเน็คไทกลับมาอีกครั้งและกลายเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มต้องมีอยู่ในตู้เสื้อผ้าจนถึงปัจจุบันนี้  เป็นที่มาที่ผ้าพันคอและเน็คไทถูกออกแบบมาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกาย ทั้งชาย หญิง และเด็กทั่วโลก
  • ผ้าพันคอ
    ในประเทศไทยมีมานาน ตั้งแต่สมัยที่มีการแพร่เข้ามาของวัฒนธรรมยุโรป แต่หายไปเป็นระยะ และมีแฟชั่นคู่รักที่ฝ่ายหญิงยอมอดหลับอดนอนถักผ้าพันคอให้หนุ่มที่รัก  สาเหตุอาจเป็นเพราะไทยมิใช่เมืองหนาว อากาศไม่หนาวจนติดลบหรือหิมะตกจนแถบแข็ง  ผ้าพันคอ จึงแพร่หลายในประเทศแถบขั้วโลก หรือตอนเหนือเช่น ยุโรป อเมริกา และเอเชียตะวันออกเช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มากกว่าประเทศแถบเส้นศูนย์สูตร  ที่มีสภาพอากาศร้อนยาวนานอย่างในไทยแต่การที่กระแสแฟชั่นผ้าพันคอมาแรงคงจะหนีไม่พ้น กระแสการแต่งตัวสไตล์เกาหลีหรือที่เรียกกันว่า KPOP ของดารานักร้องทั้งเกาหลีและไทย  ที่ไหลเรื่อยมาจนถึงฤดูหนาวของบ้านเราพอดิบพอดี  อีกทั้งการตีตลาดของผู้ผลิตที่แข่งขันกันอย่างสูงขึ้น ทำให้ผ้าพันคอหลายแบบหลาก สไตล์หาซื้อได้ทั่วไปในที่ชุมชนค้าขาย ถือว่าเป็นความพยายามของพ่อค้าแม่ค้าที่เลียนแบบลวดลายให้โดนใจวัยรุ่น และปรับเปลี่ยนเนื้อผ้าผ้าพันคอให้เหมาะกับสภาพอากาศ  ที่สำคัญคือการลดต้นทุนให้ถูกที่สุดและสามารถขายได้มากที่สุด  แต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่ตลาดย่อยเท่านั้น ตลาดใหญ่ของสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย เช่น Hemmes, Etro, Ferrigamo, Marisol Deluna, Emilio Pucci, Nicole Miller ก็ไม่ยอมแพ้ ต่างออกแบบผ้าพันคอเอาใจหนุ่มสาวมาดเนียบ ที่พอมีเงินเหลือใช้ทั้งหลาย ได้ใส่อวดโฉมกัน






ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ภาพgifน่ารักๆ